เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 ณ ห้องประชุมจอมทอง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดพะเยา นายชูชาติ กีฬาแปง เป็นประธานสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขการบริโภคแอลกอฮอล์ของจังหวัด โดยท่านได้กล่าวขอบคุณทุกท่าน ทุกหน่วยที่มีส่วนช่วยการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะเหล้าที่จังหวัดติดอันต้น 1 ของประเทศ ไม่แน่ใจว่าเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจหรือไม่ ? แต่อย่างน้อยทุกพื้นที่มีส่วนรณรงค์อย่างเต็มที่ สิ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่มาขอผ่อนปรนในช่วงเทศกาลต่างๆ แต่กฎหมายก็คือกฎหมายเราจะยอมไม่ได้ จะมาอ้างเรื่องปากท้อง หรือรายได้ในทางที่ผิดศีลธรรมยอมไม่ได้ อาจสร้างค่านิยมที่ผิดๆ จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งที่สำคัญผู้ปกครอง ผู้นำจะต้องเป็นแบบอย่างคอยตักเตือนว่ากล่าวกัน บางที่อาจเป็นเรื่องใหม่เกี่ยวกับกฎหมาย จึงต้องเรียนรู้กันไป
ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาสุรา ฯ รายงานผลต่างๆพบว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหา
- ค่านิยมที่สังคมยอมรับ เหล้าเบียร์ เป็นสินค้าธรรมดา และ เป็นเครื่องดื่มที่มีแสดงถึงความเป็นหน้าตาของ เจ้าภาพจัดงาน
- ความเชื่อว่ากินเหล้าแก้เหนื่อย แก้เมื่อย แก้เจ็บ คลายเครียด ฯลฯ
- เยาวชนดื่มตามแบบอย่างผู้ใหญ่
- การทำการตลาด-โฆษณา โดยผู้ผลิต
- ขาดความจริงจังในการบังคับใช้กฎหมาย หรือขับเคลื่อนนโยบาย
แนวทางการแก้ไข
- แนวทางการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการกับทุกภาคส่วน มาตรการระยะสั้น เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอ มาตรการยะยะกลาง/ยาว กำหนดความเร็วของรถแต่ละประเภท เพิ่มมาตรการลงโทษให้หนักขึ้น มีการจำหน่ายสุราเถื่อนในหมู่บ้าน เสนอให้ยุบไม่มีเงื่อนไข
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นไปอย่างจริงจัง เด็ดขาด ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้นำบทเรียนจากการดำเนินงานดังกล่าวมาวิเคราะห์และจัดทำเป็นแนวทางการขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยทางถนนให้เป็นรูปธรรมและชัดเจน โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 ดังนี้
1.1 ให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด จริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุโดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้ขับขี่ยานพาหนะ เช่น กฎหมายจราจร กฎหมายขนส่งทางบก กฎหมายทางหลวง และกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
1.4 มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุทุกราย ในรายที่สามารถตรวจด้วยเครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ทางลมหายใจ เพื่อเป็นการป้องปราม ทำให้ผู้ขับขี่เกิดความตระหนักถึงบทลงโทษกรณีดื่มแล้วขับขี่ยานพาหนะ
