เมื่อวันที่ 4 พ.ค. เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) กล่าวถึงกรณีที่นักศึกษามหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ เมาแล้วขับรถเก๋งจนเสียหลักพุ่งชนนักปั่นจักรยานชมรมเสือสันทราย เสียชีวิต3ราย บาดเจ็บ2รายว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุไปกินดื่มที่ร้านเหล้าร้านใด จึงต้องเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เพราะนั่นหมายความว่า ร้านเหล้ารายนี้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่ครองสติไม่ได้ ซึ่งมีความผิดตามมาตรา29 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ.2551 มีโทษจำคุก1ปี ปรับไม่เกิน2หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องยากที่จะพิสูจน์
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอเรียกร้องให้ตำรวจเอาผิดร้านค้าดังกล่าว เพราะหากผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ขายให้ผู้มีอาการมึนเมา ปัญหาเมาแล้วขับก็จะลดลง โดยเฉพาะกลุ่มที่กินดื่มจัด ตามร้านเหล้าผับบาร์ต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอของมูลนิธิเมาไม่ขับที่ได้ให้แนวคิดเอาผิดร้านค้า หากผู้ดื่มในร้านไปก่ออุบัติเหตุทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้ง2ต้องร่วมกันรับผิดชอบ เนื่องจากร้านเหล้าเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนให้เกิดอุบัติเหตุ และมาตรการนี้ในต่างประเทศได้นำไปใช้แล้วได้ผลทำให้ร้านค้ามีความตระหนัก มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น” เภสัชกรสงกรานต์ กล่าว
เภสัชกรสงกรานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากไม่มีการขยับแก้ปัญหาเมาแล้วขับให้เข้มงวด ยอดการเกิดอุบัติเหตุพิการเสียชีวิต จะเพิ่มขึ้นซ้ำอีกเรื่อยๆ ที่ผ่านมาคิดเพียงว่าผู้ดื่มจะต้องรับผิดชอบตัวเองไม่เกี่ยวกับสถานประกอบการ อีกทั้งไม่เคยเห็นตำรวจหยิบมาตรา29นี้ไปใช้ จึงอยากเรียกร้องรัฐบาลใช้กฎหมายที่มีอยู่จัดการปัญหาอย่างจริงจัง และอยากเรียกร้องอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้ขาย ไม่ใช่ไปชี้ช่องส่งเสริมหรือหลบเลี่ยงกฎหมายเพื่อหวังยอดขาย แต่ควรมีความรับผิดชอบให้มากกว่านี้ เพราะเชื่อว่าหากเคารพกฎหมายความสูญเสียลดลงแน่นอน
ขณะเดียวกันควรจะหยิบเรื่องการจัดตั้งศาลจราจรขึ้นมาพิจารณา เพราะคดีต่างๆโดยเฉพาะพฤติกรรมเมาแล้วขับ มีการฝ่าฝืนอยู่เป็นประจำและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจำเป็นต้องมีผู้ที่เข้ามาจัดการตัดสินโดยตรง ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นสามารถลดคนเสียชีวิตจากเมาแล้วขับได้ต่อเนื่องกว่า 20ปี จนทุกวันนี้ญี่ปุ่นมีคนตายจากเมา แล้วขับ ทั้งปี น้อยกว่าคนไทยตายบนถนน ช่วง7วันอันตราย ด้วยการใช้กฎหมายแรง บังคับเข้ม โดยจะลงโทษคน เมาแล้วขับ ที่ทำคนเสียชีวิต เหมือนลงโทษฆาตกร ต้องติดคุกนาน ไม่มีรอลงอาญา หรือคุมประพฤติเหมือนบ้านเรา เพราะกระบวนการยุติธรรมเขาถือว่า เมาแล้วขับ ไม่รับผิดชอบสังคม ไม่ใช่แค่ประมาท
ด้านนายเมธาสินธุ์ ชัยลิ้นฟ้า ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ จังหวัดลำปาง กล่าวว่า ในฐานะผู้โชคร้ายที่ต้องสูญเสียขา จากเหตุการณ์ถูกคนเมาแล้วขับรถชนถึง2ครั้ง จนทำให้กลายเป็นคนพิการ ต้องนั่งรถวีลแชร์ไปตลอดชีวิต ก่อนอื่นต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวญาติของผู้ที่สูญเสียและบาดเจ็บด้วย โดยส่วนตัวอยากเห็นกฎหมายที่มีอยู่บังคับใช้อย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาบังคับใช้ไม่ได้เต็มที่ ซึ่งร้านเหล้าที่ขายและผู้ที่เมาแล้วขับต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น เพราะหากไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเอาผิดร้านค้าที่รู้ทั้งรู้ว่าเขาเมาจนครองสติไม่ได้ยังขายให้ อุบัติเหตุบนท้องถนนจะไม่ลดลงแน่นอน อย่างไรก็ตาม ขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนเตือนสติผู้ที่เมาแล้วขับ ไม่ประมาท เพราะสร้างความสูญเสียให้ผู้อื่นโดยไม่สามารถทดแทนได้ และไม่ยุติธรรมสำหรับผู้ที่ต้องมาสูญเสีย
นอกจากนี้เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับอยากเห็นธุรกิจน้ำเมาซึ่งร่ำรวยติดอันดับโลก รับผิดชอบสังคมด้วยการ ตั้งกองทุนดูแลเหยื่อจากการเมาแล้วขับ เพราะมีเป็นจำนวนมากที่ต้องสูญเสียอนาคต ทั้งๆที่ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ต้องกลายเป็นคนพิการ โดยไม่มีใครรับผิดชอบ ซึ่งเรียกร้องมานาน แต่ไม่เคยมีเสียงขานรับจากธุรกิจน้ำเมา คงต้องให้รัฐบาลออกกฎหมายบังคับจึงจะสำเร็จ
Cr : โพสทูเดย์