การสื่อสารในภาวะวิกฤต-ดร. อุดม หงส์ชาติกุล

การสื่อสารในภาวะวิกฤตอีกครั้ง
ดร.อุดม หงส์ชาติกุล*

คราวนี้เป็นเรื่องของวัคซีนเข็มกระตุ้น วัคซีนเข็ม 3 ที่ผมเชื่อว่าคนที่สนใจใส่ใจคงจะเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จะมีข้อมูลการจัดการที่น่าเชื่อถือเป็นระบบ เรื่องการนัดหมาย เพื่อเข้ารับวัคซีน 

ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่มีการปรากฎตัวของเชื้อกลายพันธุ์ OMICRON ก็มีผู้รู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศออกมาบอกกันว่าวัคซีน 2 เข็มอาจไม่เพียงพอต่อการสู้กับเชื้อ OMICRON และก็บอกกันแล้วบอกกันอีกว่าควรต้องไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือที่เรียกว่าวัคซีนเข็มที่ 3

จนมาถึงขณะนี้ (วันที่ 4 มกราคม 2565) ก็ยังไม่เห็นมีการจัดการเรื่องการกระจายวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างเป็นระบบที่จะให้คนที่พร้อมและรอที่จะเข้ารับวัคซีน เห็นมีแต่เพียงประกาศจากบางโรงพยาบาล จากศูนย์บริการวัคซีนบางที่ ฐานข้อมูลประชาชนที่รับวัคซีน 2  เข็มแรกก็มีอยู่ในระบบหมอพร้อม เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งข้อมูลว่าใครรับวัคซีนอะไรไป ที่ไหน เมื่อไหร่ มีอาการแพ้หรือไม่แพ้อะไรอย่างไรจากการรับวัคซีน 2 เข็มแรก

ประชาชนส่วนหนึ่งที่ลังเลเรื่องการรับวัคซีนก็อาจจะยังคงลังเลอยู่ เพราะข้อมูลที่มีผู้รู้ออกมาพูดกันมากมาย แต่สำหรับคนที่พร้อมจะรับวัคซีน ซึ่งเป็นคนส่วนมากก็คงจะรออยู่ว่าเมื่อไหร่จะได้รับข้อมูลที่ควรจะได้รับ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ในภาวะวิกฤต ความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือคือสิ่งสำคัญที่สุด https://www.komchadluek.net/covid-19/499604

การสื่อสารในภาวะวิกฤต ควรรู้ว่าผู้รับสารต้องการที่จะรู้อะไร ต้องการข้อมูลอะไร

การสื่อสารในภาวะวิกฤต

  • พูดน้อยลง พูดให้ดีกว่าเดิม 
  • พูดด้วยหัวใจของคุณ รู้ถึงความรู้สึกของผู้รับสาร & ผู้ส่งสาร
  • เมื่อคุณไม่รู้ ก็บอกว่าคุณไม่รู้ เพราะไม่มีทางที่คุณจะรู้ทุกเรื่อง 

การสื่อสารในภาวะวิกฤต สถานการณ์ที่มีความสับสน วุ่นวาย ซับซ้อน

  1. พูดน้อยลง สื่อสารเฉพาะที่จำเป็นจริง ๆ (ควรน้อยลงอย่างมาก) เพื่อหลีกเลี่ยงการสื่อสารที่ผิดพลาด / อันตราย
  2. น้ำเสียงแห่งความจริงใจ น้ำเสียงคือทุกอย่าง ความเห็นอกเห็นใจ การมองสบตาและในระดับบุคคล ระหว่างบุคคลต่อบุคคล ฉันรู้ว่าคุณรู้ว่าฉันรู้ และเรากำลังเผชิญความท้าทายร่วมกัน สิ่งนี้เกิดขึ้นกับฉันเช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ
  3. เข้าใจภาวะอารมณ์ที่ผู้คนในสังคม ที่กำลังเผชิญภาวะวิกฤต เริ่มในช่วงแรกผู้คนจะเกิดการตระหนก ความหวาดกลัวเกิดการชะงักงัน ทำอะไรไม่ถูก และอาจจะมีพฤติกรรมเช่นการกักตุน สะสมของ ให้ความสำคัญกับการปกป้องตนเอง และน่าประหลาดใจที่ผู้คนสามารถเปลี่ยนเป็นการนึกถึงผู้อื่น เปลี่ยนเป็นโฟกัสภายนอกได้อย่างรวดเร็ว ฉันจะช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างไร ฉันจะหยุดการหยุดชะงักเป็นอัมพาตได้อย่างไร ฉันจะลงมือช่วยอะไรบางอย่างได้บ้าง
  4. การสร้างการมีส่วนร่วม และเปิดใจรับฟัง ให้ความสำคัญกับความเข้าใจทางวัฒนธรรมของคนในสังคม บริบทท้องถิ่น และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นว่าทำไมความคิดนั้น มาตรการความพยายามนั้น ๆ จึงไม่เหมาะสม และไม่เห็นด้วย 
  5. มุ่งสร้างพลังงานบวก การสื่อสารที่สร้างความหวัง การให้ขวัญกำลังใจ ใช้มาตรการการให้รางวัล ชื่นชมและหลีกเลี่ยงการลงโทษ ตำหนิว่ากล่าว
  6. สื่อสารให้ง่าย ลดความซับซ้อน ทำสิ่งที่ยากให้เข้าใจได้ง่ายๆ ทำให้เห็นสิ่งที่มองไม่เห็น เพื่อทำให้เป็นรูปธรรมที่จะทำให้ผู้คนเข้าใจ สื่อสารโดยใช้ข้อมูลและการออกแบบการสื่อสารที่เป็นรูปภาพ สัญลักษณ์ 
  7. ทำงานร่วมกับผู้นำทางธรรมชาติ ผู้นำท้องถิ่น แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ให้ข้อมูลแก่พวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถช่วยเราสื่อสารได้ ในช่วงวิกฤต COVID-19 ในตอนนี้สิ่งสำคัญคือการอยู่กับปัจจุบันขณะ และสงบสติอารมณ์ จะมีความสับสนวุ่นวายและความเครียดมากมาย 

หยุดการสร้างข่าวร้าย อย่าตอกย้ำเชิงลบ ร่วมกันสร้างความหวัง สร้างพลังงานบวกมากขึ้น การสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจเป็นสิ่งจำเป็นในขณะนี้ การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ ความเอื้ออาทร ความรัก


*ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ผู้ก่อตั้ง Social Lab ประเทศไทย และผู้นำการขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ Imagine Thailand Movement

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า